เวียตเจ็ทไทยแลนด์-CAAT-สายการบินไทย 8 สายร่วมลงนามMOU..
กรุงเทพฯ 24 พฤศจิกายน 2568 – นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินเวียตเจ็ทไทยแลนด์ (VZ) ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการส่งเสริมการใช้น้ำมันอากาศยานแบบยั่งยืน หรือ Sustainable Aviation Fuel (SAF) กับ พลอากาศเอก มนัท ชวนะประยูร ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ภายใต้พิธีลงนามซึ่งมีผู้บริหารระดับสูงจาก 8 สายการบินของไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมเป็นสักขีพยานอย่างพร้อมเพรียง พิธีลงนามจัดขึ้น ณ ห้องประชุมพระศิวะ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ โดยมีผู้บริหารจากภาครัฐและภาคเอกชน อาทิ กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) กรมพัฒนาพฟลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BAFS) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) และบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นสักขีพยาน
ความร่วมมือครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการบินของประเทศไทยให้สอดคล้องตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อมขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) และสนับสนุนการดำเนินงานตามโครงการ CORSIA (Carbon Offsetting and Reduction Scheme for International Aviation) ที่ประเทศไทยเข้าร่วมตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 เพื่อมุ่งสู่การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และบรรลุเป้าหมาย Net Zero ของภาคการบิน
พลอากาศเอก มนัท ชวนะประยูร ผู้อำนวยการ CAAT กล่าวว่า “การลงนามความร่วมมือในวันนี้เป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการบินของไทยสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง และเป็นจุดเริ่มต้นที่แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยกำลังเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นอุตสาหกรรมการบินสีเขียว (Green Aviation) ผ่านการสร้างสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งสร้างโอกาสทางธุรกิจที่ยั่งยืนในห่วงโซ่อุปทานเชื้อเพลิงอากาศยานของประเทศ”
นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเวียตเจ็ทไทยแลนด์ กล่าวว่า เวียตเจ็ทไทยแลนด์รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมลงนาม MOU กับ CAAT และผู้ดำเนินการเดินอากาศไทยทั้ง 8 สาย ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการบินไทยสู่ความยั่งยืน ภายใต้พันธกิจ Fly Green เรามุ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการนำเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) มาใช้ในการปฏิบัติการบิน โดยได้ให้บริการเที่ยวบิน Green Route แล้วและเตรียมขยายสู่เส้นทางอื่นในอนาคต พร้อมตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการใช้ SAF ให้ได้ 5% ในช่วง 5 ปีข้างหน้า เพื่อสนับสนุนเป้าหมาย Net Zero 2050 ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทุกภาคส่วนในการผลักดันการบินที่สะอาด ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง ผ่านการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน พันธมิตรทางธุรกิจ และผู้โดยสาร
สำหรับเวียตเจ็ทไทยแลนด์ การลงนามครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจในการผลักดันการใช้ SAF อย่างต่อเนื่อง โดยสายการบินเป็น สายการบินโลว์คอสต์รายแรกในภูมิภาคที่ใช้น้ำมัน SAF บนเที่ยวบินนำร่อง ครั้งแรก เส้นทาง ‘กรุงเทพฯ–ดานัง’ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2567 และครั้งที่สอง เส้นทาง Green Route ‘กรุงเทพฯ–ฟูโกว๊ก’ เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 พร้อมมีแผนขยายเส้นทางเพิ่มเติมในอนาคต การเข้าร่วม MOU ครั้งนี้สะท้อนถึงความพร้อมและมุ่งมั่นของเวียตเจ็ทไทยแลนด์ในการทำงานร่วมกับ CAAT หน่วยงานรัฐ และพันธมิตรในภาคอุตสาหกรรม เพื่อผลักดันการบินสีเขียวอย่างยั่งยืน สนับสนุนเป้าหมาย LTAG และสอดคล้องกับโครงการ Fly Green ของสายการบิน ซึ่งมุ่งสร้างมาตรฐานการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยกระดับความยั่งยืนของอุตสาหกรรมการบินไทย...
__________________________
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น